กองทัพเรือได้มีการแถลงข่าว ยืนยันว่ามีความจำเป็นในการจัดหาเรือดำน้ำจากจีนเพิ่ม 2 ลำ เข้าประจำการในกองทัพเรือ โดยอ้างถึงผลประโยชน์ทางทะเลของชาติสูงถึง 24 ล้านล้านบาท พร้อมยืนยันว่ามีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ

โดย พล.ร.ท.ธีรกุล กาญจนะ ปลัดบัญชีทหารเรือ กล่าวว่า ขั้นตอนการจัดซื้อดำน้ำรวม 3 ลำกับจีน เป็นโครงการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 โดยลำแรกวงเงิน 13,500 ล้านบาท ทยอยจ่าย 7 ปี ตั้งแต่ 2560-66 และอีก 2 ลำเป็นการจัดหาต่อเนื่องให้ครบ 3 ลำตามโครงการที่อนุมติไว้ไม่ใช้งบอนุมัติใหม่

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้คืนงบประมาณปี 2563 ไป เพื่อช่วยเหลือประเทศในสถานการณ์โควิด-19 จึงต้องยืดระยะไปถึงปีงบประมาณ 2570 จนครบตามวงเงินที่ตกลงไว้⁣⁣

การจัดซื้อเรือดำน้ำ ใช้งบประมาณตามวงเงินที่ได้รับ ไม่ได้ขอเพิ่มแต่อย่างใด แต่ยอมลดงบประมาณส่วนอื่นลง เพื่อจัดซื้อเรือดำน้ำ ในโครงการต่อเนื่องให้ได้ในระยะเวลา 7 ปี

ขณะที่ทางด้านพลเรือโทประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือและโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า

เมื่อเช้าผมติดตามข่าวช่อง Nation สำรวจความคิดเห็นของประชาชน ปรากฎว่าประชาชนเห็นชอบว่าสมควรจัดซื้อตามเหตุผลที่กองทัพเรือชี้แจงกว่า 71 เปอร์เซ็นต์

ที่กล่าวหาว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ เป็นสัญญาเก๊ ก็ไม่เป็นความจริง โครงการรับจำนำข้าว ที่พรรคเพื่อไทย ทำต่างหากที่เป็นจีทูจีเก๊ และไม่ถูกต้อง แต่กองทัพเรือทำการซื้อแบบจีทูจีอย่างถูกต้องโปร่งใส ขอสังคมอย่าตกเป็นเหยื่อเครื่องการเมือง การให้ข่าวของพรรคเพื่อไทย หวังผลการเมือง และเป็นการเห็นแก่ตัว พลเรือโทประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ กล่าว