
คุมพ่อทำแผน นาทีฆ่าลูกในไส้ นำศพฝังสุสาน เพราะไม่อยากได้ลูกสาว
จากกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ทำการจับกุมตัวนายอนุภาพ โจปัญญา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ หลังก่อเหตุใช้น้ำยาล้างห้องน้ำกรอกปากลูกสาวคือ เด็กหญิงณิชา โจปัญญา อายุ 6 วัน จนหมดขวด เสียชีวิต ก่อนนำศพไปฝังดินอำพรางที่สุสานคริสต์ หมู่ 9 บ้านใหม่ริมคลอง ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ก.ย.63 ที่ สภ.ช้างเผือก พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก พ.ต.ท.จักรี วงศ์คำ รอง ผกก.สส.สภ.ช้างเผือก ร.ต.อ.นพดล เอกจิตร รอง สว.สอบสวน สภ.ช้างเผือก ได้นำตัว นางสาวมาลี สินไพร่ อายุ 29 ปี บ้านอยู่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ภรรยาของ นายอนุภาพ โจปัญญา อายุ 45 ปี มารดาของลูกสาว อายุ 6 วัน มาทำการสอบปากคำ
โดย นางสาวมาลี ให้การว่า ได้แต่งงานอยู่กินกับ นายอนุภาพ มานาน จนมีพยานรักด้วยกัน 2 คนก่อนหน้านี้ เป็นเด็กหญิง อายุ 9 ขวบ และ 7 ขวบ ซึ่งตลอดมาสามีคือนายอนุภาพ อยากได้ลูกผู้ชายมาสืบสกุล เพราะมีเชื้อสายจีน จนกระทั่งตนเองตั้งท้อง ได้ 4 เดือนก็ไปอัลตร้าซาวนด์ดู ก็พบว่าทารกในท้องเป็นเพศหญิง นายอนุภาพ ก็ไม่พอใจอยากทำแท้ง จะได้มีลูกผู้ชาย แต่ตนเองและญาติก็อยากเอาลูกไว้ จนเด็กคลอดออกมาเป็นทารกเพศหญิง ออกโรงพยาบาลมาได้ 2 วัน จนลูกอายุได้ 6 วัน ตอนเช้าวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา นายอนุภาพ ก็มาขอพาลูกไปพบญาติ และหายไปทั้งวันติดต่อไม่ได้ ตนจึงได้แจ้งความที่ สภ.ช้างเผือก ตกเย็น นายอนุภาพ กลับมาบ้านแล้วมากอดตนเอง และสารภาพว่าลูกไม่อยู่กับเราแล้ว ตนก็เสียใจมาก และแจ้งให้ตำรวจทราบ ก่อนตำรวจนำตัวไปสอบสวนและไปขุดศพลูกจนเจอ
จากนั้นเวลา 11.00 น. ทางเจ้าหน้าที่จะได้ควบคุมตัวนายอนุภาพ ไปทำแผนยังจุดต่างๆ ตั้งแต่จุดอุ้มลูกออกจากเตียง จุดบริเวณลานจอดรถร้านอาหารแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดที่ นายอนุภาพ นำน้ำยาล้างห้องน้ำมากรอกปากลูกสาววัย 6 วัน จนหมดขวด จนลูกร้องขาดใจตายคาอ้อมอกของนายอนุภาพ จากนั้นก็นำศพลูกห่อผ้าแล้วนำไปขุดหลุมฝัง เพื่ออำพรางคดี แต่เกิดสำนึกผิดจึงสารภาพกับภรรยาตัวเองและไปสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย นายอนุภาพ ให้การรับสารภาพว่าที่บ้านทำธุรกิจค้าขายสินค้ากิฟต์ช็อป จากเดิมได้ลูกสาวแล้ว 2 คน และอยากจะได้ลูกชาย ด้วยความผิดหวังที่ลูกคนนี้ไม่ใช่ผู้ชาย ประกอบกับทะเลาะกับภรรยา เศรษฐกิจการค้าจากพิษโควิดที่ซบเซา ทำให้เครียดหนัก จึงคิดสั้นอุ้มลูกออกจากบ้าน และกรอกน้ำยาล้างห้องน้ำจนหมดขวด ก่อนจะเอาลูกไปฝังเพื่อหวังอำพรางคดี
ด้าน พ.ต.ท.จักรี วงศ์คำ รอง ผกก.สส.สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ ซึ่งคดีนี้ไม่ซับซ้อน เพราะหลักฐานพยานทางตำรวจมีครบทุกอย่าง ส่วนสาเหตุเพราะตัวผู้ต้องหาอยากได้ลูกสาว พอภรรยาท้อง และทราบว่าได้ลูกสาวอีกคน เป็น 3 คนก็เสียใจทะเลาะกันตลอด และพยายามจะทำแท้ง จนทะเลาะกันจนลูกเกิด จึงตัดสินใจฆ่าลูกทิ้ง ซึ่งทางตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ทำสำนวนเสนอพนักงานอัยการดำเนินการตามกฎหมายต่อไปโดยเร็ว
ขณะที่ หลานชายผู้ต้องหา ให้สัมภาษณ์ว่า น้าของตนนั้นมีความต้องการอยากได้ลูกชายมาสืบสกุลเชื้อสาย ซึ่งท้องที่ 1 ที่ 2 ก็เป็นผู้หญิง และท้องที่ 3 นั้นมีความตั้งใจอย่างมากว่าจะเป็นผู้ชายเพราะถึงขั้นกับไปปรึกษาแพทย์สูติ ซึ่งได้มีการแนะนำการกิน การออกกำลังกาย แต่รู้สึกว่าการตั้งท้องครั้งนี้เหมือนน้าชายยังไม่พร้อมแต่ภรรยาน่าจะเผลอหรือว่าไม่ให้ความร่วมมือ ถึงเคยเครียดเข้าพบจิตแพทย์โรงพยาบาลสวนปรุง เชียงใหม่มาแล้ว
ส่วนสาเหตุที่น้าชายก่อเหตุในครั้งนี้ทำให้ธุรกิจและครอบครัวพร้อมกับลูกสาวอีก 2 คนที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ต้องพังทั้งหมด ส่วนการประกันตัวน้าชายนั้นคาดว่าทางญาติจะไม่ยื่นขอประกันตัวคงปล่อยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวส่งฝากขังเรือนจำต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อหาคือฆ่าผู้อื่น ตายโดยเจตนา และ ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ ในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวนจะได้นำตัวไปขออนุญาตฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนศพ ลูกสาว ทางญาติก็เดินทางไปขอรับศพที่ภาควิชานิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อนำไปประกอบพิธีตามประเพณีต่อไป