
ลูกหลานช็อก รีบนำร่างตาจากโลงเย็น หลังพบยังไม่เสียชีวิต สุดท้ายไม่ทันการ
สำนักข่าวบีบีซี รายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่เมืองซาเล็ม รัฐทมิฬนาฑู ทางตอนใต้ของอินเดีย โดยชีวิตหนึ่งต้องจากไปแบบไม่มีวันกลับ เพราะความผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้น
กุมาร ภาลาสุพราหมนยาม ชายชรา วัย 74 ปี ถูกนำตัวเข้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แพทย์ได้ให้การรักษา แต่อาการไม่ดีขึ้น จนกระทั่งวันที่ 12 ตุลาคม แพทย์ก็ยืนยันว่า คุณตากุมาร เสียชีวิตแล้ว
ครอบครัวของตากุมาร ประกอบด้วย ภรรยา ลูกสาว 2 คน และน้องชาย ได้เคลื่อนย้ายศพกลับบ้าน และโทร. เรียกผู้ให้บริการโลงเย็น ซึ่งผู้ให้บริการโลงเย็น กล่าวว่า น้องชายของตาบอกทีมงานว่าให้นำศพลงโลงได้เลย โดยอ้างว่ามีใบลงนามยืนยันจากแพทย์ว่าตาเสียชีวิตแล้ว
ร่างของตาแช่แข็งอยู่ในโลงเย็นอยู่ข้ามวัน ก่อนที่ครอบครัวจะเปิดโลงดูเพื่อจัดงานศพในวันที่ 13 ตุลาคม
ครอบครัวต่างตกตะลึงมาก เพราะพบว่าร่างตากุมารขยับได้ และยังมีลมหายใจอยู่ ลูกหลานจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกแห่งทันทีหลังจากรู้ว่าเขายังไม่ตาย แต่หลังจากนอนโรงพยาบาลอยู่ 4 วัน ตากุมารก็เสียชีวิต
ผู้บริหารโรงพยาบาลรัฐในเมืองซาเล็ม ระบุว่า ผู้ป่วยถูกรับตัวมารักษาในสภาพเซื่องซึมภายหลังการช่วยเหลือ ก่อนจะเสียชีวิตด้วยปัญหาที่เกี่ยวกับปอด
ตำรวจได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้แล้วพบว่า ลูกหลานไม่มีใบรับรองแพทย์ว่าตาเสียชีวิตแล้ว และไม่มีใบมรณบัตร แต่นำร่างลงโลงเย็นโดยไม่ตรวสอบดูให้ดีเสียก่อน
ตำรวจแจ้งข้อหากับครอบครัวตากุมาร โทษฐานกระทำการอันประมาทและปล่อยปละละเลย จนนำไปสู่การเสียชีวิต
ทั้งนี้ ไม่ทราบแน่ชัดว่าตากุมารรอดชีวิตจากการถูกแช่แข็งเป็นระยะเวลานานมาได้อย่างไร ไม่แน่ชัดว่าเขาถูกแช่แข็งอยู่นานกี่ชั่วโมง และไม่มีการรายงานเพิ่มเติมว่าจะมีการดำเนินคดีกับโรงพยาบาลแห่งแรกด้วยหรือไม่ ที่วินิจฉัยผิดพลาดว่าตากุมารเสียชีวิตแล้ว โดยขณะนี้ทุกอย่างกำลังอยู่ในระหว่างสืบสวนสอบสวน
ขอบคุณข้อมูลจาก BBC