เดลีเมล์ รายงานเรื่องราวของ หญิงจีนคนหนึ่ง เธอมีชื่อว่า หวง กัวเสียน อายุ 36 ปี เป็นคุณแม่ลูก 2 จากมณฑลกุ้ยโจว ทางภาคตะวันตกแยงใต้ของจีน ต้องทนแบกท้องโต เพราะข้างในมีก้อนเนื้องอกน้ำหนักว่า 40 กิโลกรัม ซึ่งเป็นผลจากโรคมะเร็งรังไข่ ซึ่งลามขยายไปทั่วช่องท้องจนควบคุมไม่ได้ ท้องใหญ่ยักษ์ทำให้เธอเดินลำบาก และนอนแทบไม่ได้ ขณะที่เธอเองก็ไม่มีทุนทรัพย์มากพอที่จะเข้ารับการรักษา จึงต้องทนป่วยมานานกว่า 2 ปี

เธอเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดที่เสี่ยงมากที่โรงพยาบาล เมื่อวันอังคารที่ 13 ต.ค. หลังมีผู้คนแห่บริจาคเงินช่วยค่าผ่าตัดครั้งนี้ได้เกือบ 5 แสนบาท

เรื่องราวของนางหวงได้รับความสนใจไปทั่วสังคมจีน หลังจากสื่อมวลชนนำเสนอเรื่องราวที่น่าเห็นใจของนางหวงที่เป็นชาวนาฐานะยากจนต้องดูแลลูก 2 คนโดยลำพัง เพราะสามีต้องไปทำงานหาเงินในเมืองใหญ่

นางหวงกล่าวว่า ท้องเริ่มโตขึ้นๆ ตั้งแต่ปี 2561 ตอนแรกรู้สึกเจ็บ จึงไปหาหมอ เมื่อได้ยามากินก็ไม่เจ็บท้องอีก แต่ปรากฏว่าท้องมีขนาดใหญ่ขึ้นเหมือนลูกโป่งยักษ์ นอนแทบไม่ได้เลย จะเดินหรือดูแลลูกก็ลำบากมาก

กระทั่งเมื่อเดือนสิงหาคมปีนี้ นางหวงขอความช่วยเหลือจากสื่อในท้องถิ่นให้ช่วยลงเรื่องราวของเธอเผื่อจะมีคนใจบุญช่วยเหลือ ปรากฏว่าเงินบริจาคช่วยมาจากทั่วทุกสารทิศ ทำให้นางหวงได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอันชุน 302

แพทย์ที่รักษาเผยว่า พบมะเร็งรังไข่ลามไปทั่วช่องท้อง เนื่องจากคนไข้ไม่ได้เข้ารับการรักษาทันเวลา การแก้ไขสถานการณ์ของแพทย์ในการรักษาครั้งนี้ ตอนแรกยับยั้งการผ่าตัดไว้ เนื่องจากเห็นว่ามีความเสี่ยงสูง พยาบาลใช้วิธีดูดส่วนที่เป็นของเหลวออกจากช่องท้องคนไข้ทีละนิด

กระทั่งเมื่อต้นเดือนตุลาคม อาการคนไข้ทรุดลง แพทย์จึงตัดสินใจผ่าตัดให้ เพื่อป้องกันอาการทรุดไปกว่านี้ การผ่าตัดใช้เวลานาน 8 ชั่วโมง ตั้งแต่ช่วง 8 โมงเช้าถึง 4 โมงครึ่งตอนเย็น ใช้บุคลากรการแพทย์รวม 15 คน มีผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งมาจากเมืองกุ้ยหยาง เมืองเอกของมณฑลกุ้ยโจวด้วย

หมอหวง หยูเฉียง ผู้เชี่ยวชาญการวางยาสลบเพื่อผ่าตัด กล่าวว่า แม้ว่านางหวงจะเสียเลือดมากระยะสั้น แต่คณะแพทย์ประคองอาการให้ทรงตัวได้ จนผ่าตัดสำเร็จ จากนี้ไปต้องดูแลคนไข้ให้ฟื้นตัว

สื่อท้องถิ่นเผยว่า หมอผ่าเอาก้อนเนื้องอก และของเหลวรวมกันหนัก 10 ก.ก. ออกมา จากปริมาณส่วนเกินนี้ 40 ก.ก.

สำหรับค่ารักษาอยู่ที่ประมาณ 1.5 แสนหยวน หรือราว 7 แสนบาท ตรงนี้สวัสดิการรัฐจะครอบคลุมอยู่ ส่วนที่เหลือทางโรงพยาบาลจะรับผิดชอบเอง

ฉันไม่เคยคิดว่า ชาวนาหญิงที่เป็นชาวบ้านธรรมดาอย่างฉันจะได้รับความสนใจจากสังคมขนาดนี้ นางหวงกล่าวและว่า ดีใจอย่างที่สุดที่ได้รับน้ำใจจากคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน

ความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญครั้งนี้ทำให้ฉันความเห็นความหวัง และช่วยให้ฉันมีความฝันที่จะเป็นแม่ได้ต่อไป หลังจากฉันหายดีแล้ว จะสอนให้ลูกชายและลูกสาวรู้จักมีน้ำใจต่อคนอื่น และฉันจะทำให้ดีที่สุดที่จะกลับไปใช้ชีวิตในสังคม

สำหรับเงินที่นางหวงได้รับบริจาคมา 4.7 แสนบาทตั้งแต่เดือนสิงหาคมนั้น นางหวงกล่าวว่าจะเก็บไว้ทำทุนธุรกิจเล็กๆ หลังจากหายดีแล้ว