
บัตรคนจน เดือนเมษายน 2563 เงินเข้า 3 วัน
วันที่ 9 เมษายน 2563 ทีมข่าว dailyliveexpress ได้รับรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กบัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้รายงานถึงข้อมูลสิทธิ์ของผู้ถือบัตรสัวสดิการแห่งรัฐในเดือนเมษายน 2563 ไว้ดังนี้ แต่ต้องเน้นว่าเนื่องจากมีจำนวนผู้ถือบัตรคนจนที่ได้รับสิทธิ์จำนวนมาก จึงทำให้แต่ละคนอาจจะไม่ได้รับเงินพร้อมกัน ทั้งนี้ผู้ถือบัตรสามารถตรวจสอบสวัสดิการต่างๆ ของตัวเองได้ที่เว็บไซต์
วันที่ 1 เมษายน 2563
ผู้ที่ถือสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน จะได้รับ 3 ส่วน ก็คือ 1 วงเงินชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภค โดยต้องซื้อจากร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น ซึ่งในวงเงินนี้ไม่สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้ โดยได้รับคนละ 200 ถึง 300 บาท ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ คือ ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินช่วยเหลือตรงนี้ 300 บาทต่อเดือน ส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100000 บาท จะได้รับเงิน 200 บาทต่อเดือน
นอกจากนี้ยังได้รับเงิน 2 ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม โดยรัฐบาลแจกให้คนละ 45 บาทต่อ 3 เดือน แต่หากไม่ใช้สิทธิภายใน 3 เดือน ก็จะถูกตัดยอดเงินตรงนี้ไป อีกทั้งยังได้ 3 ค่าใช้จ่ายการเดินทางโดยรถสาธารณะ 500 ต่อเดือน ครอบคลุมทั้ง รถเมล์ รถไฟฟ้า รถ บขส และรถไฟ
วันที่ 15 เมษายน 2563
ผู้ที่ถือสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน จะได้รับ คืนเงินภาษีมูค่าเพิ่ม หรือ VAT 7 เปอร์เซนต์ โดยจะเป็นการจ่ายเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ e Money สามารถรูดออกมาเป็นเงินสด หรือใช้จ่ายผ่านบัตรกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ แต่เงินจำนวนนี้จะสามารถใช้ได้ในเดือนถัดไป
โดยอัตราภาษีนั้น แยกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1 เปอร์เซนต์ เป็นส่วนที่ผู้ถือบัตรต้องจ่ายอยู่แล้วเมื่อนำบัตรไปใช้จ่าย จากเดิมที่ต้องจ่ายเต็ม 7 เปอร์เซนต์ ส่วนอีก 5 เปอร์เซนต์ เป็นเงินที่ผู้ถือบัตรคนจนจะได้รับการคืนเงินในเดือนถัดไปผ่าน e Money สำหรับ 1 เปอร์เซนต์ สุดท้าย จะถูกนำเข้าไปในกองทุนการออมแห่งชาติของผู้ถือบัตรคนจนนั่นเอง
เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น
วันที่ 18 เมษายน 2563
ผู้ที่ถือบัตรคนจนจะได้รับ 2 ส่วน ก็คือ 1 ค่าน้ำประปา แต่จะต้องเป็นครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยรัฐจะช่วยเหลือไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน และ 2 ค่าไฟฟ้า ซึ่งผู้ที่ได้รับเงินต้องใช้ไฟไม่เกิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ซึ่งทั้งสองส่วนนี้จะได้รับเงินตามจริง ไม่ไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และระยะเวลาของโครงการทั้งสอง มีตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ถึง กันยายน 2563 รวมระยะเวลาทั้งหมด 11 เดือน
เรียบเรียง dailyliveexpress